เปิดไพ่ตาย “รัฐบาล” ชูช่องทางพิเศษ สกัดข่าวปลอม “ไวรัสโคโรนา”

จากสถานการณ์ “เชื้อไวรัสโคโรนา” สายพันธุ์ใหม่ 2019 ซึ่งทำให้เกิดอาการปอดอักเสบ โดยเริ่มระบาดในประเทศจีน เมืองอู่ฮั่น มณฑลเหอเป่ย ทำให้หลายประเทศตื่นกลัว ออกมาตรการควบคุมและป้องกันอย่างเข้มงวด

ขณะที่ในโซเชียลก็มีการแชร์ข้อมูลแลกเปลี่ยนข่าวสารกันอย่างต่อเนื่อง และปฏิเสธไม่ได้ว่า ในบางครั้งก็มีข่าวปลอมที่สร้างมาเพื่อเรียกกระแสปะปนมาด้วย จนทำให้หลายคนเกิดความเข้าใจผิด สร้างความปั่นป่วน ในบางกรณีสร้างความเสียหายร้ายแรงต่อสังคม ซึ่งกรณี “ไวรัสโคโรนา” รัฐบาลก็ไม่ได้นิ่งนอนใจกับการแชร์ข่าวปลอมแต่อย่างใด

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เคยออกมาแนะนำช่องทางให้ประชาชนตรวจสอบข้อมูลและสามารถแยกข่าวเป็นข่าวจริงหรือข่าวปลอมได้จาก “ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมในการกรองข่าว” (Anti-Fake News Center) ซึ่งจะมีช่องทางในไลน์ 1,300,000 กว่าคน

“ตั้งแต่มีเรื่องไวรัสโคโรนา เราขึ้นข่าวถี่มาก เพราะข่าวปลอมมีเยอะ แต่หลายคนที่เข้าใจว่าศูนย์เงียบ อาจจะไม่เข้าใจ ไม่ทราบช่องทางที่เรากระจายข่าว ก็อยากฝากประชาสัมพันธ์ให้เข้ามาเป็นสมาชิกในไลน์กลุ่ม จะได้ทราบเวลามีข่าวปลอม จะได้ช่วยแชร์ได้ว่า ข่าวใดจริงไม่จริง เราก็พยายามหยิบอันที่คนแชร์กันเยอะมาตรวจสอบและสื่อออกไป จึงอยากให้ติดตามในไลน์กลุ่ม ซึ่งเป็นไลน์กลุ่มพิเศษที่มีสมาชิกได้ไม่จำกัดจำนวน

เราพยายามเร่งทำเพราะรู้ว่าข่าวปลอมเยอะจริง ผมพยายามจะติดตามตรวจจับต้นตอข่าวปลอม ซึ่งเราพยายามติดต่อข้อมูลส่งให้ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ในการจับผู้กระทำผิด”

ฐบาล-ปอท. จัดการกับต้นตอ หรือคนปล่อยข่าวปลอมอย่างไร?

ยกตัวอย่าง “ข่าวปลอม ไวรัสโคโรนาระบาดมีคนตายที่พัทยา” หลังจากศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม โดยกระทรวงดิจิทัลฯ ตรวจสอบแล้วว่าไม่เป็นความจริง ก็ได้ส่งข้อมูลประสานไปทาง ปอท. ซึ่งในกรณีนี้ นายพุทธิพงษ์ พร้อมด้วย พ.ต.อ.พันธนะ นุชนารถ รองผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ หัวหน้าชุดเฉพาะกิจ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอท. ได้เข้าตรวจค้นทาวน์เฮาส์แห่งหนึ่งในพื้นที่แขวงเขตมีนบุรี กทม. ซึ่งประกอบธุรกิจขายหมูกระทะ เดลิเวอรี่ ที่คาดว่าเป็นต้นตอของโพสต์ดังกล่าว

และจากการตรวจสอบพบว่า คนปล่อยข่าว ยอมรับว่าเป็นผู้โพสต์ข่าวไวรัสโคโรนาที่พัทยา โดยมีข้อความระบุว่า “พัทยามีคนป่วยโคโรนา ตาย 1 คน ทำไมต้องปิดข่าวหรอ ประชาชนจะได้ระวังตัวกัน ห่วงเศรษฐกิจมากกว่าประชาชน” จริง

ทั้งนี้ นายพุทธิพงษ์ เปิดเผยว่า เบื้องต้น ได้ดำเนินการเชิญมาทำการสอบสวนที่กระทรวงดิจิทัลฯ และ ปอท. และอีกบางจุดพลาดเป้าไปบ้างเนื่องจากใช้ข้อมูลปลอมด้วย จนถึงขณะนี้เบื้องต้นสามารถควบคุมตัวผู้โพสต์ข่าวปลอมได้ 2 ราย อีก 10 รายกำลังติดตาม

อย่างไรก็ตาม การโพสต์ข้อความข่าวปลอมดังกล่าว มีความผิดนำเข้าข้อมูลที่บิดเบือนหรือปลอมเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งต้องดำเนินการในขั้นตอนต่อไป

รัฐบาลไม่นิ่งนอนใจ เปิดช่องทางแจ้งเบาะแสข่าวปลอม

เว็บไซต์ Anti-Fake News Center Thailand ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย ของกระทรวงดิจิทัลฯ เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสข่าวที่น่าสงสัย เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้ ซึ่งหลังจากตรวจสอบแล้วจะมีการนำเสนอข้อเท็จจริงผ่านทางเว็บไซต์ และช่องทางต่างๆ ดังนี้

ไลน์กลุ่ม @anitfakenewscenter

เฟซบุ๊ก Anti-Fake News Center Thailand

ทวิตเตอร์ @AFNCThailand

ทวิตเตอร์เตือนข่าวปลอม “ไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019”

นอกจากนี้ยังพบว่า ช่วงแรกที่มีการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ในทวิตเตอร์ได้มีการติดแฮชแท็ก #ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่2019 จนพุ่งได้ติดอันดับทวิตเตอร์ และก็ปฏิเสธไม่ได้อีกเช่นกันว่า บางข้อมูลที่ถูกรีทวีตจำนวนมากเป็นข่าวปลอม จนทำให้ ทวิตเตอร์ ได้ขึ้นคำเตือนว่า หากมีผู้ใช้งานกดเข้าไปที่แฮชแท็ก #ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่2019